วิธีบูชาพระแม่กาลียังไงให้เห็นผล รวยโชค รวยทรัพย์ รวยอำนาจ

พอพูดถึงคำว่า ” กาลี ” ซึ่งหมายถึง สิ่งชั่วร้าย หลายคนมักจะนึกถึงสำนวนไทยอันหนึ่งความว่า ” กาลีบ้านกาลีเมือง ” แปลว่า สิ่งที่ชั่วร้ายต่อบ้านเมือง คำว่า ” กาลี ” ในมุมมองของใครหลายคนจึงดูเป็นสิ่งอัปมงคล สิ่งไม่ดี จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดคิดว่า.. เทพเจ้าองค์หนึ่งของพราหมณ์ – ฮินดู นามว่า พระแม่กาลี เป็นเทพแห่งความดุร้ายและหากราบไหว้จะพบแต่สิ่งไม่ดี วันนี้หนูษาเลยจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับพระแม่กาลีใหม่ ว่าท่านนั้นไม่ได้ร้ายอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ และจะแนะนำแนวทางดี ๆ อย่าง วิธีการบูชาพระแม่กาลีอย่างไรให้เห็นผลจริง

พระแม่กาลี เทพแห่งอำนาจบารมี

พระแม่กาลี หรือ กาลิกา เป็นปางอวตารภาคที่ 1 ของพระอุมาเทวี  ซึ่งเป็นพระแม่ผู้เป็นใหญ่เหนือสิ่งอื่นใด และเป็นเทวีแห่งอำนาจบารมีและวาสนาอันสูงสุด  ลักษณะของพระแม่กาลี คือ ท่านมีกายสดำสนิท พระพักตร์ดุร้าย มี 10 พระกรที่ถืออาวุธยาว และแลบลิ้นยาวมาถึงทรวงอก นอกจากนี้แล้วริมฝีปากของท่านยังมีเลือดหยดเป็นทางยาวอีกด้วย เครื่องประดับของพระแม่กาลีคือ หัวกะโหลกและงูใหญ่ที่ร้อยคาดเป็นสังวาลย์

ตำนาน พระแม่กาลี

เรื่องมีอยู่ว่า.. มีอสูรอยู่ตนหนึ่งนามว่า อสูรทารุณ ไม่ว่าจะถูกฆ่ากี่ครั้งก็ไม่ตาย หนำซ้ำยังมีพละกำลังและอำนาจมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเลือดของมันตกลงพื้น และด้วยความคิดที่ว่าไม่มีใครทำร้ายหรือฆ่าตนได้ อสูรทารุณจึงชอบไปกลั่นแกล้งและรังแกผู้คน สุดท้ายก็คิดจะครอบครองโลกทั้ง 3  เห็นดังนั้นเหล่าเทวดา นางฟ้า  บนสวรรค์จึงนำเรื่องไปบอกพระอิศวรเพื่อหาทางปราบอสูรตนนี้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าสู้

ในที่สุดพระแม่อุมาเทวี เทพสตรีแห่งสวรรค์ ท่านก็อาสาจะไปปราบอสูรทารุณด้วยตนเอง ก่อนไปก็ได้ไปขอให้ได้รับชัยชนะต่อพระศิวะผู้เป็นเจ้า แล้วจึงได้ไปบำเพ็ญตบะและทำพิธีศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้มีอิทธิฤทธิ์และอำนาจในการปราบศัตรู โดยให้ขันทกุมาร หรือสกันทะ ซึ่งเป็นโอรสของพระแม่อุมาเทวีและพระศิวะ เฝ้าดูแลไม่ให้ใครเข้ามากวนในพิธี ณ ป่าหิมพานต์

พอเวลาผ่านไป พระศิวะต้องการพบพระแม่อุมาเทวีให้ได้ แต่พระขันทกุมารห้ามไว้ตามคำสั่งของพระมารดา ถึงขั้นเกิดการปะทะกัน  ไม่นานหลังจากนั้นพระแม่อุมาเทวีก็บำเพ็ญตบะเสร็จ และออกมาในสภาพที่เปลี่ยนไปจากเดิมเป็นพระแม่กาลี แต่พระขันทกุมารนั้นรู้ดีว่านั่นคือพระมารดาของตน เมื่อพระแม่อุมาได้ฟังเรื่องจากขันกุมาร จึงโมโห ตาถลนออกนอกเบ้า หน้าตาดุดัน แลบลิ้นยาวน่าเกลียดน่ากลัว ทำปากแบะกว้างเห็นเขี้ยวโง้ว มีเลือดไหลจากมุมปากและตามมือและลำตัว ส่งกลิ่นคาวคลุ้งไปทั่ว ตรงเข้าหาพระศิวะทันทีด้วยความโมโห พระศิวะเห็นดังนั้นจึงตกใจวิ่งหนีสุดชีวิต

หลังจากนั้นพระแม่กาลีรีบเสด็จออกจากป่าหิมพานต์ เพื่อตามล่าอสูรทารุณ ซึ่งไม่นานพระแม่กาลีก็ได้เผชิญหน้ากับอสูรทารุณ และเกิดการต่อสู้กันขึ้น จังหวะที่พระแม่กาลีทรงใช้ดาบฟันคออสูรขาด เลือดของอสูรก็หยดลงพื้น อสูรจำนวนมากจึงผุดขึ้นมาจากหยดเลือดเหล่านั้น พระแม่กาลีเห็นดังนั้นจึงคิดว่าคงไม่มีวันฆ่าอสูรตนนี้ให้ตายได้เป็นแน่

พระแม่กาลีจึงคิดกลอุบายเพื่อเอาชัยชนะในครั้งนี้ให้ได้ ด้วยการตัดหัวของอสูรพร้อมทั้งดูดกินเลือดก่อนที่เลือดจะตกลงพื้น เมื่อกินจนหมดสิ้นแล้ว รูปกายของพระแม่กาลีจึงอ้วนใหญ่ ในมือนั้นถือหัวของอสูรที่ตัดร้อยเป็นพวงไว้ สุดท้ายอสูรทารุณจึงสิ้นฤทธิ์ลง

พระแม่กาลีศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องไหน

• พระแม่กาลีมีอำนาจในการจัดการสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายทั้งปวง มีพละกำลังอันยิ่งใหญที่สร้างความวิบัติแก่เหล่าอสูรได้อย่างรุนแรง หากใครบูชาพระแม่กาลีอย่างถูกต้องและเคร่งครัด พระแม่จะประทานความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญ และอำนาจเหนือผู้อื่น และหากใครสวดบูชา สรรเสริญ และถวายเครื่องสังเวยแด่พระแม่กาลีเป็นประจำ พระแม่จะประทานความปลอดภัย และความผาสุขมาสู่ผู้นั้น ท่านจะช่วยคุ้มครองผู้บูชาจากภยันตรายและอุบัติเหตุร้ายแรง

• นอกจากนี้คนไทยเชื่อว่า… พระแม่กาลีมีอำนาจในการกำจัดคุณไสย มนต์ดำ คนไหนที่ถูกคนทำของใส่ ถ้าได้สวดบูชาอ้อนวอนต่อพระแม่ ท่านจะลบล้างและขจัดสิ่งไม่ดีให้หมดไป

วิธีบูชา พระแม่กาลี

• พระแม่กาลีนั้นโปรดปรานการบูชาด้วยประทีปหรืออัคนี ดังนั้น แท่น หิ้ง หรือ โต๊ะบูชา ของพระแม่ ควรปูด้วยผ้าสีแดงก่อน แล้วค่อยประดิษฐานรูปภาพหรือเทวรูปลงไป หากประดิษฐานในศาลหรือเทวาลัย ควรทาสีเทวาลัยด้านในให้เป็นสีแดงหรือสีดำ ส่วนกระถางธูปถ้าทาสีแดงหรือดำได้ก็ยิ่งดี

• ตามตำราโบราณกล่าวไว้ว่า… การบูชาพระแม่กาลีด้วย น้ำสีแดง ถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆ (ใช้น้ำสมุนไพรสีแดงหรือน้ำหวานสีแดง) เนื่องจากเป็นสีแห่งพลังที่มีการเคลื่อนไหว การกำเนิด และเปรียบดั่งโลหิตของอสูรร้าย นอกจากนี้สิ่งที่จะต้องนำมาถวายสังเวยแด่พระแม่กาลี ก็มี ขนมสีแดง หรือ ขนมลาดูป (ลัทดู) ขนมโมทกะ ที่ถวายพระพิฆเนศ และดอกไม้สีแดงทุกชนิด เช่น ดอกกุหลาบ ดอกชะบาแดง

• ธูปหอม กำยาน น้ำมันหอมระเหย สามารถจัดหากลิ่นใดก็ได้ แต่ที่แนะนำก็จะเป็นกลิ่นจันทน์ น้ำมันอบเชย น้ำมันกระดังงา และการบูร

• ในเมืองกัลกัตตา ประเทศอินเดีย มีผู้บูชาลัทธิพระแม่กาลีมากที่สุดในโลก และพวกเขามัก สังเวยพระแม่ด้วยเลือดแพะ (ในอดีตมีการบูชาพระแม่กาลีด้วยเลือดของหญิงสาวบริสุทธิ์ เพื่อบูชายัน แต่ปัจจุบันนั้นหันมาใช้เลือดแพะแทน) น้ำสีแดง ขนมสีแดง ถวายอาหารคาว (เป็นเทพองค์เดียวของฮินดูที่ถวายเนื้อสัตว์อาหารคาวได้) เนื้อสัตว์ (ไม่ใช่เนื้อวัวหรือควาย) ทั้งปรุงสุกและกึ่งสุกกึ่งดิบ แต่ดิบ ๆ เลยไม่ได้ และถ้าถวายอาหารคาวก็ควรมีเหล้าด้วย แต่ถ้าถวายแค่ขนมเหล้าไม่ต้องก็ได้

• สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ …. การสวดบูชาสรรเสริญพระแม่กาลีด้วยสวดมนต์ที่ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ และการทำสมาธิทุกวัน วิธีที่เหมาะสมคือ การประกอบ “ปราณยาม” หรือการทำสมาธิด้วยการหายใจเข้า-ออกโดยลากให้ยาวสุด เข้าสุด-ยาวสุด เป็นระยะเวลาที่เท่าๆกันสม่ำเสมอทุกวัน ควรถือศีลอดบ้างเป็นครั้งคราวเพื่อถวายแด่พระองค์ (นำเนื้อสัตว์ถวายแก่พระแม่แล้วเราทานมังสวิรัติแทน เพื่อเป็นการแสดงให้พระองค์เห็นถึงความศรัทธาและจงรักภักดีที่เรามีต่อท่าน)

คาถาบูชา พระแม่กาลี

** ก่อนการสวดบูชาพระแม่กาลีจะต้องสวดมนต์ต่อพระพิฆเนศก่อนเสมอ **

โอม ศรี มหา กาลิกาไย นะมะห์ (สามจบ)

โอม ชยะตี มหากาลี ชยะตี อาธยะ กาลี มาตา

ชยะรูปะ ประจัญทิกา มหากาลิกะ เทวี

ชยะตี รักตาสะนะ เราทะระมุขี รุทะรานี

อริ โศนิตขะไประ ภะระนี ขัททะคะ ธรณี ศุจี ปาณนี ฯ (หนึ่งจบ)

เทศกาล มหากาลีบูชา (Maha Kali Puja)

ตรงกับวันแรม 14 ค่ำ เดือน 10 เป็นวันแห่งการบวงสรวงพระแม่กาลี ผู้ศรัทธาจะกระทำการจัดถวายเครื่องสังเวยชุดใหญ่
และทำการภาวนามนต์บูชาพระองค์ สวดสรรเสริญตลอดวันตลอดคืน

สรุป

ใครที่กำลังมองหาและคิดบูชาเทพฮินดู ผู้ช่วยเรื่องการขจัดสิ่งเลวร้าย อันตรายทั้งหลายทั้งปวง เพิ่มอำนาจบารมีให้ล้นพ้น และช่วยปกป้องให้แคล้วคลาดจากอันตราย การบูชาพระแม่กาลีนั้นก็ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว ซึ่งวิธีบูชาท่านก็ไม่ยากเลย…

หากใครคิดจะประดิษฐานท่านไว้ที่บ้านก็ให้หาผ้าสีแดงมารองก่อน แล้วบูชาด้วยน้ำแดง ขนมสีแดง หรือ ขนมลาดูป (ลัทดู) ขนมโมทกะ รวมถึงดอกไม้สีแดงด้วย นอกจากนี้ยังสามารถบูชาท่านด้วยอาหารคาวได้ด้วย ซึ่งถ้าใครจะถวายอาหารคาวก็ควรมีเหล้าด้วย จากนั้นก็ให้กล่าวบทสวดมนต์ สวดบูชาสรรเสริญท่านเป็นประจำ รับรองว่าท่านจะประทานพรให้กับผู้บูชาให้อยู่รอดปลอดภัยแน่นอน