ห้ามให้ฝนหยุด!! หยุดเเบบไม่มีอะไรกั้น ด้วย”คาถาไล่ฝน”
ฝนนะฝน ตกตอนไหนไม่ตก ชอบตกเวลาเลิกงานอยู่เรื่อย!! ตกทีกรุงเทพเหมือนเมืองอัมพาต นั่งรถกลับที่พักกินเวลาไปสามสี่ชั่วโมงกับระยะทางไม่ถึงห้ากิโล น้ำท่วมเก่ง!! รถติดเก่ง!! ต่างจังหวัดอย่างภาคอีสาน ต้องการน้ำไปปลูกข้าวทำนา ไม่ยอมตกให้ …จนชาวนาเดือดร้อนกันค่อนประเทศ เเต่ดันมาตกในเมืองที่น้ำฝนเเทบไม่ได้ใช้ประโยชน์ทำอะไร เฮ้อออออ จะไม่ให้ท้อเเท้ได้อย่างไร ไหน ๆ ฝนก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุด เเถมไม่เลือกวันเวลาตกอีก!! หนูษาเลยไปขุดมนต์คาถาที่เขาว่า ไล่ฝน ได้อยู่หมัด ถ้าฝนยังไม่หยุดอีกนะ เราคงต้องเห็นดีกัน อย่างรู้ว่ามีคาถาอะไรบ้าง ก็ตามหนูษามาเลยค่ะ อย่าช้า!!! เดี๋ยวฝนหยุดตกก่อน ไม่ทันท่องมนต์นะ
พระคาถาพระธรรมราช เบิกตะวัน ไล่ฝน
คาถาไล่ฝนบทเเรก คือพระคาถาพระธรรมราช ซึ่งจากข้อมูลเว็บไซต์ Palungit ได้เล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระคาถาบทนี้ไว้ว่า…
ข้าพเจ้าเริ่มทดลองห้ามฝนด้วยคาถาธรรมราชครั้งแรกในปี 2528 ขณะทำธุระอยู่ที่จตุจักร เมฆฝนดำทะมึนและฝนตกลงมาอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุด จึงได้ไปแอบฝนที่นาฬิกาด้านในสวน แล้วก็ยกมือไหว้ฟ้าดิน ขอบารมีเป็นที่พึ่ง สวดคาถาชุมนุมเทวดาและท่องคาถาพระธรรมราชไปในใจไปด้วย ไม่นานท้องฟ้ามืดทมึนพลันก็เลือนหายไป ฝนหยุดเม็ด และแดดก็เริ่มออกอีกครั้ง
วิธีสวด : ให้สวดจนครบ 108 จบ แล้วเอาประคำวางด้านหน้า (เอาไว้ที่สูง อย่าวางบนพื้น) กราบสามครั้ง แล้วอธิษฐาให้แคว้วคลาดปลอดภัยตลอดช่วงเวลาที่อยู่ข้างนอก
คาถาพระธรรมราช
พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ทะ ทะ ทะ โร โร โร อะ อะ อะ สะ สะ สะ โส โส โส โณ โณ โณ นะโมพุทธายะ
คาถาห้ามลมพายุ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ชัยนาท
คาถาไล่ฝนบทที่ 2 เป็นคาถาห้ามลมพายุ ของหลวงพ่อกวย ซึ่งมีผู้เล่าประสบการณ์ไว้ในว็บไซต์ Thepjuti ใจความว่า…
ประมาณ 3 เดือนก่อนช่วงพายุเข้า ที่ที่ผมทำงานอยู่เป็นแค้มสังกะสีกลางทุ่งนา วันนั้นตอนกลางวันร้อนมาก แต่พอตอนเย็นมา มืดเต็มเลย บนฟ้านี่ฟ้าก็ร้องเสียงดังน่ากลัวมาก สักพักนึง ลมมา ลมนี่มาแรงขนาด ราวตากผ้าที่เหล็กข้ออ้อยล้มลง ธรรมดาถ้าจะยกต้องใช้ 2 คนยก แล้วสังกะสีตีกันเหมือนจะเปิดเเหล่มิเปิดเเหล่ ไม่รู้จะทำอย่างไร นึกขึ้นได้ว่าอ่านเรื่องหลวงพ่อกวยห้ามลมห้ามฝน มีคาถาอยู่บทหนี่ง นะ หันตะวา แตสัง อุปัต ตะเว ผมก็มาภาวนาอยู่หน้าห้อง แล้วระลึกถึงหลวงพ่อกวย ขอบารมีท่าน สักพักจากลมที่กำลังพัดมาอย่างแรงก็ค่อยๆเบาลงเหลือแต่ฝนที่ลงเม็ดนิดหน่อย สาธุ สาธุ สาธุ
วิธีสวด : ขณะท่องคาถาบทนี้ให้ระลึกถึงคุณของหลวงพ่อกวย ด้วยความเลื่อมใส่ศรัทธา ขณะท่องก็พัดหรือโบกผ้ายันต์ไปด้วย เเต่ถ้าไม่มีผ้ายันต์จริง ๆ ก็ให้ระลึกถึงคุณของท่านเเทนก็ได้
คาถาห้ามลมพายุ
นะ หันตะวา แตสัง อุปัต ตะเว
คาถาห้ามฝน ของสมเด็จพระศรีสมโพธิ์ราชครู ขรัวอีโต้
คาถาสุดท้าย เป็นคาถาไล่ฝนของหลวงสมเด็จพระศรีสมโพธิ์ราชครู ขรัสอีโต้ มีวิธีสวดให้เห็นผล ดังข้อความด้านล่างนี้
วิธีสวด : ให้ตั้งนะโม 3 จบ ตามด้วยบทไตรสรณาคมน์ และท่องคาถาห้ามฝนข้างต้นตามกําลังวัน ดังนี้ วันอาทิตย์ 6 จบ วันจันทร์ 15 จบ วันอังคาร 8 จบ วันพุธกลางวัน 17 จบ วันพุธกลางคืน 12 จบ วันพฤหัสบดี 19 จบ วันศุกร์ 21 จบ และวันเสาร์ 10 จบ
คาถาห้ามฝน
สิทธิ พุทธะ จะ อุตตะมะ สิทธิ ธัมมา เทวะ สังฆา สัพพะ มหาวิชา คาถา สิทธิสาวัง พุทธัง ประสิทธิเม ธัมมัง ประสิทธิเม สังฆัง ประสิทธิเม สมเด็จพระศรีสมโพธิ์ราชครู ประสิทธิเม พระขรัวอีโต้ประสิทธิเม
การไล่ฝนรูปแบบอื่น ๆ
นอกจากการไล่ฝนด้วย 3 มนต์คาถาอันศักดิ์สิทธ์ที่หนูษาได้เเนะนำมาก่อนหน้าแล้ว ยังมีการไล่ฝนรูปแบบอื่น ๆ มาแบ่งปันด้วยเช่นกัน ซึ่งหลายคนก็น่าจะพอรู้หรือเคยได้ยินกันมาบ้าง ดังนี้
ปักตะไคร้ ไล่ฝน
พิธีไล่ฝนที่อยู่คู่กับคนไทยมาเนิ่นนาน เรียกได้ว่าเกิดมาก็ได้ยินวิธีไล่ฝนรูปแบบนี้เลยก็ว่าได้ โดยเลือกสาวบริสุทธิ์ไม่เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์กับชายใด ไม่อยู่ในช่วงมีประจำเดือนและเป็นผู้รักษาศีลอยู่เสมอ ให้มาอธิษฐานขอให้ฝนหยุด อย่าให้ฝนตก แล้วปักต้นตะไคร้กลับปลายลงพื้นดินนั่นเอง
ปลูกจักไคร
การปลูกจักไคร้ (ตะไคร้) คล้ายกับการปักตะไคร่ เพียงเเต่ว่าการปลูกจักไคร้นั้นจะให้แม่หม้ายผัวตาย ปลูกตะไคร้ในที่โล่งแจ้ง ด้วยการเอาส่วนปลายลง เอาส่วนโคนชี้ขึ้น และเชื่อว่าจะให้ผลดีต้องเปลื้องเสื้อผ้าออกให้หมดและห้ามอาบน้ำเด็ดขาดระหว่างที่ยังไม่อยากให้ฝนตก
ต๋ามเตียน
ต๋ามเตียน หมายถึง “จุดเทียน” พิธีการไล่ฝนลักษณะนี้จะลงยันต์ “ฟ้าฟีก” ในแผ่นกระดาษสา แล้วนำแผ่นยันต์ดังกล่าวม้วนกับไส้เทียน แล้วนำเทียนไปจุดกลางแจ้งขณะฝนใกล้จะตกหรือฝนเริ่มตก ทั้งนี้ผู้ประกอบพิธีต้องนั่งบริกรรมคาถา “โอม วะ วะ มหาเมฆะ วัง วะ” ตลอดระยะเวลาที่ไม่ต้องการให้ฝนตก
ห้อยจ๊อน ฟ้อนป้าก
ห้อยจ๊อน ฟ้อนปากนั้น คือการนำถ้วย ชาม กาละมัง และช้อนขึ้นไปแขวนส่วนบนของประตูบ้าน เมื่อฝนฟ้าคะนอง พายุเข้า สิ่งที่แขวนไว้จะถูกลมพัดกระทบกันเสียงดัง ในเวลาเดียวกันเจ้าของบ้านก็จะถือ “ป้าก”(จวัก) ออกไปฟ้อนรำผสมโรงด้วย เพื่อให้เกิดอาเพศ ลมฝนจะได้สงบลงโดยเร็ว
เผาดินขอ
สำหรับพิธีเผาดินขอนั้น เป็นการนำกระเบื้องดินเผาที่ผ่านการใช้งานแล้วมาเผาไฟ โดยผู้ประกอบพิธีจะนำเอากระเบื้องมาลงยันต์จำนวนหลายแผ่น แล้ววางซ้อนทับกันบนเตาที่เตรียมไว้ แล้วค่อยติดไฟให้ลุกโชนและคอยเติมฟืนให้ไฟแรงอยู่ตลอดเวลา ผู้ประกอบพิธี จะต้องนั่งเฝ้าเตาไฟและเอามือทั้งสองอังไฟไว้ พร้อมกับบริกรรมคาถาว่า…
พุทธัง สะระณัง ฝนวะ ธัมมัง สะระณัง ฝนวะ สังฆัง สะระณัง ฝนวะ
การบริกรรมคาถาจะบริกรรมไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ และที่สำคัญห้ามผู้ประกอบพิธีอาบน้ำเด็ดขาดมิเช่นนั้นฝนจะตกลงมาทันที
สรุป
คาถาไล่ฝน พระคาถาพระธรรมราช เบิกตะวัน ไล่ฝน, คาถาห้ามลมพายุ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ชัยนาท และคาถาห้ามฝน ของสมเด็จพระศรีสมโพธิ์ราชครู ขรัวอีโต้ เป็นพระคาถาที่ขึ้นเชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิและความขวัง ลูกศิษย์คนไหนจะทำงานใหญ่ เวทีจัดแสดง คอนเสิร์ต งานบุญ งานแต่ง หรือแม้แต่การออกไปทำธุระนอกบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วไม่อยากให้ฝนหยุดก็ท่องคาถาของครูบาอาจารย์เห็นผลมานักต่อนัก ส่วนถ้าใครสะดวกทำวิธีอื่นหรืออยากให้ทางอื่นช่วยเพิ่มก็สามารถทำตามคาถาไล่ฝนอื่น ๆ ที่แอดแนะนำมาได้เช่นกัน
